แกะบทสัมภาษณ์บางท่อนของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ได้ใจความว่า “ผมได้บอกกับสโมสรไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนแล้ว ผมต้องอธิบายพวกเขาเพิ่มว่าเพราะอะไร ผมเข้าใจได้ว่า มันเป็นข่าวช็อกหลายคนในตอนนี้แต่อย่างน้อยที่สุดผมก็บอกได้ว่าทำไม เมื่อพวกเรามานั่งคุยกันถึงแผนงานต่อไป อย่างเช่นการเซ็นนักเตะใหม่ในซัมเมอร์ต่อไป ผมไม่มั่นใจว่าผมจะอยู่ที่นี่ได้ต่อไปอีก”
“มันคงเป็นเพราะผมรู้สึกหมดเรี่ยวแรงที่จะทำทีมได้ต่อ มันไม่เกี่ยวเรื่องสุขภาพ ผมสบายดีแต่ผมต้องพูดตรงๆว่า ผมคงไม่สามารถนั่งเก้าอี้ตัวนี้ได้อีก โดยหลังจากเราได้สู้ด้วยกันมาหลายปี ใช้เวลาด้วยกันมายาวนาน เราต้องเคารพซึ่งกันและกัน ผมต้องการพูดความจริงและนี่คือความจริง”
แน่นอนว่าข่าวชิ้นนี้ถือว่าช็อกวงการฟุตบอล ยิ่งกับใครก็ตามที่ศรัทธาในความเป็น ลิเวอร์พัดเลี่ยน มายาวนานด้วยแล้วก็อาจย้อนนึกถึงปี 1991 ที่ เคนนี่ ดัลกลิช เคยลาออกได้เลย
มันก็ไม่ใช่แค่โค้ชคนหนึ่ง
มันก็ไม่ใช่แค่ชายผู้นิยมสวมหมวกที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งอย่าง
แต่มันหมายถึงการที่ใครสักคน ที่ร่วมใต้ชายคาเดียวกันมากว่า 9 ปี กำลังจากออกไป โดยมีทุกรสชาติของชีวิตฝากเอาไว้ให้คิดถึง
แชมป์พรีเมียร์ลีก กับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ถือเป็นผลงานมาสเตอร์พีซ ทีมชุดนั้นถือว่าหนึ่งในดีที่สุดของโลก มองได้อีกมุมว่าบางทีการเลือกประกาศออกมาว่าจะขอลาทีมหลังจบซีซั่นในตอนนี้มีเรื่องของจิตวิทยามาเกี่ยวข้อง ทำให้ทุกฝ่ายต้องร่วมแรงใจกันทำให้ ลิเวอร์พูล ปิดฉากยุคคล็อปป์ได้สวยงามที่สุด
ในลีกก็นำจ่าฝูงอยู่
บอลถ้วยก็ได้เข้าชิงไปหนึ่งรายการแล้วก็คือ คาราบาว คัพ ขณะที่ ยูโรปา ลีก กับ เอฟเอ คัพ ก็ยังอยู่ในเส้นทางที่หวังได้
“คุณจะทำเพื่อผมได้ไหม?” เสียงจากอกข้างซ้ายของ คล็อปป์ อาจดังไม่หยุด
ต่อมาการที่เจ้าตัวเลือกบอกกับบอร์ดบริหารตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ก็เป็นการให้เวลาหาคนเข้ามาแทน นี่เรียกว่าแฟร์อย่างยิ่ง ไม่ใช่มารอใกล้ๆแล้วค่อยเดินไปบอก ในเมื่อร่างกายมันเรียกร้องแล้วว่าควรหยุดพักได้แล้วก็ไม่มีการมาดึงเกมแต่อย่างใด
แน่นอนที่สุดว่างานหนักของกลุ่มเฟนเวย์ก็ต้องเป็นการหาโค้ชคนใหม่มานั่งเก้าอี้ต่อจาก คล็อปป์ นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่แล้ว
อีกเหตุผลเบื้องหลังที่เชื่อกันว่า คล็อปป์ เลือกลาทีมหลังจบฤดูกาลนี้ก็เพราะเชื่อว่าทีมชุดปัจจุบันมีศักยภาพก้าวไปได้ไกล ดังนั้นไม่ว่าใครที่เข้ามาแทนก็จะได้สานต่อทันที ไม่ต้องเสียเวลาปลุกปั้นทีมขึ้นมาใหม่
นี่ก็แมนๆอีกนั่นแหละ
“สำหรับผมแล้วมันเป็นเรื่องสำคัญมากๆที่ผมได้ช่วยให้สโมสรได้มีทีมชุดใหม่ที่พร้อมสู้ในทุกเกม เมื่อผมคิดว่ามันวางใจได้แล้วก็ยิ่งเป็นเรื่องที่ทำให้ผมไปได้โดยไม่มีกังวล”
เหลือเวลาอีกราว5เดือนเศษที่งานเลี้ยงหนึ่งต้องเลิกลา
การสิ้นสุดของเรื่องหนึ่งเป็นการเริ่มต้นใหม่ของอีกเรื่องหนึ่งเสมอ
“คุณจะทำเพื่อผมได้ไหม?” จากนี้เสียงนี้จะดังขึ้นใต้อกข้างซ้ายของคนหลายคน ไม่ใช่แค่ คล็อปป์ ลำพัง