มอยเซส ไคเซโด เปิดใจเหตุปัดย้ายร่วมทัพ ลิเวอร์พูล – เลือกค้าแข้ง เชลซี

มอยเซส ไคเซโด กองกลาง เชลซี และทีมชาติเอกวาดอร์ เผยถึงสาเหตุที่เขาเลือกปฏิเสธร่วมทัพ ลิเวอร์พูล ว่าเขาได้เจรจากับ “สิงโตน้ำเงินคราม” มาก่อนแล้ว

โดย ไคเซโด ตกเป็นเป้าหมายเสริมทัพหลักของ ลิเวอร์พูล เมื่อตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมาซึ่ง “หงส์แดง” ได้ยื่นข้อเสนอจำนวนกว่า 110 ล้านปอนด์ (ราว 4.89 พันล้านบาท) ให้กับ ไบรตัน และ “นกนางนวล” ก็ตอบตกลงแล้ว

อย่างไรก็ตาม ไคเซโด กลับไม่ยอมมาตรวจร่างกายกับ ลิเวอร์พูล เนื่องจากต้องการย้ายไปเล่นกับ เชลซี ก่อนสุดท้าย “สิงโตน้ำเงินคราม” ก็ปิดดีลเขาไปเสริมแกร่งด้วยค่าตัว 115 ล้านปอนด์ (ราว 5.11 พันล้านบาท) ซึ่งเป็นสถิติใหม่ของเกาะอังกฤษ

ล่าสุด ไคเซโด ได้ให้สัมภาษณ์กับ “สกาย สปอร์ต” ถึงสาเหตุที่ปัดย้ายไปเล่นกับ ลิเวอร์พูล และเลือกไปค้าแข้งกับ เชลซี แทน “ทำไมต้อง เชลซี ไม่ใช่ ลิเวอร์พูล? ผมคุยกับ เชลซี มานานแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะปฏิเสธ เชลซี เพราะพวกเขาคอยสนับสนุนผม และอยู่เคียงข้างผม ลิเวอร์พูล โทรหาผม แต่มันสายเกินไปเพราะผมต้องการเล่นให้กับ เชลซี”

ถึงกระนั้นดาวเตะวัย 22 ปียอมรับว่า ตอนนี้เขามีผลงานที่ตกลงไป “ตอนนี้ผมไม่ใช่ มอยเซส ตัวจริง แต่ผมมั่นใจว่าผมจะกลับมา และจะประสบความสำเร็จต่อไป ผมจะทำให้แฟนบอล เชลซี มีความสุข ผมรู้สึกแย่กับตัวเองเพราะผมอยากชนะมาโดยตลอด”
ออร์สตีน ได้ตอบคำถามนี้ไว้ว่า “ตามที่ผมเข้าใจ ลอว์เรนซ์ สจวร์ต และ พอล วินสแตนลีย์ ผู้อำนวยการกีฬาร่วมเป็นสองหัวเรือหลักในการเดินดีลซื้อ-ขาย โดยมีกลุ่มเจ้าของคอยให้คำแนะนำและการสนับสนุน ส่วน โปเชตติโน นั้นมีส่วนเพียงเล็กน้อย และจะไม่ได้รับอำนาจเพิ่มเติมในตลาดหน้าหนาวนี้”

“สำหรับแผนงานการเสริมทัพในอนาคต ผู้เล่นตำแหน่งกองหน้าน่าจะถูกเซ็นเข้ามา แต่ยังไม่แน่ว่าจะเป็นช่วงมกราคมหรือหลังจบฤดูกาล อีกหนึ่งตำแหน่งที่ เชลซี น่าจะเสริมก็คือ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เพราะทางสโมสรน่าจะไม่ต่อสัญญา แล้วปล่อยตัว ติอาโก ซิลวา ออกจากทีม แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องปล่อยตัวผู้เล่นออกไปด้วย เพื่อรักษาตัวเลขในบัญชีไม่ให้ละเมิดกฎการเงินของพรีเมียร์ลีก”

“เชลซี” หลังฟอร์มหลุดเป้า แถมเตรียมโละ “แข้งตำนาน” พ้นทีม

คำถามเกี่ยวกับข่าวสารวงการลูกหนังเข้ามา โดยมีสมาชิกรายหนึ่งเข้ามาตั้งคำถามว่า “ทำไม เมาริซิโอ โปเชตติโน ออกมาเรียกร้องให้ทีมเสริมทัพผ่านสื่อ ทั้งๆ ที่ช่วงก่อนเปิดฤดูกาล เชลซี ก็ซื้อตัวแบบจัดเต็มเข้ามาแล้ว นี่เป็นสัญญาณความร้าวฉานระหว่างทั้งสองฝ่ายหรือไม่? เพราะเขาดันอยากได้กองกลางเข้ามาอีก แม้ว่าจะมี โรเมโอ ลาเวีย, มอยเซส ไกเซโด และ เอ็นโซ เฟร์นานเดซ อยู่ในมือแล้ว”

ออร์สตีน ได้ตอบคำถามนี้ไว้ว่า “ตามที่ผมเข้าใจ ลอว์เรนซ์ สจวร์ต และ พอล วินสแตนลีย์ ผู้อำนวยการกีฬาร่วมเป็นสองหัวเรือหลักในการเดินดีลซื้อ-ขาย โดยมีกลุ่มเจ้าของคอยให้คำแนะนำและการสนับสนุน ส่วน โปเชตติโน นั้นมีส่วนเพียงเล็กน้อย และจะไม่ได้รับอำนาจเพิ่มเติมในตลาดหน้าหนาวนี้”

“สำหรับแผนงานการเสริมทัพในอนาคต ผู้เล่นตำแหน่งกองหน้าน่าจะถูกเซ็นเข้ามา แต่ยังไม่แน่ว่าจะเป็นช่วงมกราคมหรือหลังจบฤดูกาล อีกหนึ่งตำแหน่งที่ เชลซี น่าจะเสริมก็คือ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เพราะทางสโมสรน่าจะไม่ต่อสัญญา แล้วปล่อยตัว ติอาโก ซิลวา ออกจากทีม แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องปล่อยตัวผู้เล่นออกไปด้วย เพื่อรักษาตัวเลขในบัญชีไม่ให้ละเมิดกฎการเงินของพรีเมียร์ลีก”

สรุปตลาดซื้อขายสเปอร์สฤดูกาล 2023-24 : ข่าวย้ายทีมสเปอร์ส

สรุปตลาดซื้อขายนักเตะสเปอร์ส อัปเดตล่าสุด 1 กันยายน 2566

ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ที่ถึงแม้จะจบในอันดับ 8 และไม่ได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรปรายการไหนเลย แต่พวกเขาน่าจะเป็นหนึ่งในทีมที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเรื่องของตัวนักเตะในฤดูกาลหน้า ดังนั้นจึงต้องไปติดตามกันดูว่าพวกเขาจะซื้อใครเข้ามาและขายใครออกไป

สรุปตลาดซื้อขายนักเตะ สเปอร์ส ฤดูกาล 2023-24 บทสรุปของทุกดีลการซื้อขายและการยืมตัวได้ทาง The Sporting News Thailand

เดยัน คูลูเซฟสกี้ (ซื้อขาดจาก ยูเวนตุส)

กูเยลโม วิคาริโอ (เอ็มโปลี)

เจมส์ แมดดิสัน (เลสเตอร์ ซิตี้)

มานอร์ โซโลมอน (ชัคตาร์ โดเน็ทส์ค)

มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน (โวล์ฟบวร์ก)

อเลโฆ เบลิซ (โรซาริโอ เซ็นทรัล)

แอชลีย์ ฟิลลิป (แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส)

เบรนแนน จอห์นสัน (น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์)

ออก

แฮรรี่ เคน (บาเยิร์น มิวนิค) 

ลูคัส มูรา (เซา เปาโล)

เจมี โบว์เดน (หมดสัญญา)

คัลลัม ซีเซย์ (หมดสัญญา)

มาลาคี เฟแกน-วอลคอตต์ (หมดสัญญา)โรชอน มาทูริน (หมดสัญญา)

มาร์เกส มูเยอร์ (หมดสัญญา)

โรเมน มันเดิล (หมดสัญญา)

แฮรี่ วิงค์ (เลสเตอร์ ซิตี้)

โจ โรดอน (ลีดส์ ยูไนเต็ด) ยืมตัว

ไม่สะเทือนหาก แมนยู ปลด!หึ่งทีมดัง จ้องดึง เอริค เทน ฮาก คุมทัพ

เอริค เทน ฮาก กุนซือทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เครียดหนักที่สุดในชีวิตการคุมทีมลูกหนังอีกหนอย่างแน่นอนเมื่อเขามีภารกิจสำคัญต้องพาทีม ปีศาจแดง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ บาเยิร์น มิวนิค ในการโม่เกือกถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายวันอังคารนี้ (12 ธ.ค.)

อย่างที่รู้กันว่า ผีแดง ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องชนะ เสือใต้ แถมต้องลุ้นให้ โคเปนเฮเก้น เสมอกับ กาลาตาซาราย ด้วยเพื่อที่พวกเขาจะทะยานจากอันดับบ๊วยเข้ารอบ 16 ทีมตามหลังแชมป์ บุนเดสลีกา ในฐานะทีมอันดับสองของกลุ่มเอ

ฉะนั้นแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องประสบความสำเร็จพร้อมๆกันถึงสองเงื่อนไขซึ่งมองดูแล้วแทบเป็นไปไม่ได้เลย และส่งผลให้พวกเขามีโอกาสตกรอบแบ่งกลุ่มถ้วยหูใหญ่ซะมากกว่า